ป้ายกำกับ

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

บทเรียนที่ 2 ท่าปลาเข็ม

ในส่วนนี้จะเริ่มสอนวิธีการทำปลาเข็มทั้งแบบ ไม่ต้องตีขา และแบบตีขา

แบบที่ 1 ไม่ตีขา  แบบนี้จะทำให้เราทรงตัวลำบากนิดหน่อยเวลาน้ำไม่นิ่ง แต่ก็ทำได้ไม่ยาก  เริ่มจากการยืนชิดขอบสระหันหลังให้ขอบสระ เอาขาข้างที่ถนัดยันขอบสระไว้ จากนั้นยืดแขนออกไปข้างหน้า ในลักษณะวางบนน้ำ มือ 2 ข้างจับกันไว้ (แค่วางทับกันนะ ไม่ต้องจับให้มั่น ) จากนั้น อ้าปากกว่า หายใจลึกๆ ก้มหน้า พร้อมกับถีบขาออกไป พอหลังจากถีบขอบสระออกไปแล้ว ให้รวมขา 2 ข้างให้ชิด ปล่อยให้ขาลอยน้ำ ลอยไปเรื่อย ค่อยๆเป่าลมออก จนเรารู้สึกว่าเราต้องการอากาศหายใจ ก็ให้กดขาลง เตรียมตัวยืน

แบบที่ 2 แบบตีขา แบบนี้จะทำได้ง่ายกว่า ทรงตัวในน้ำได้ดีกว่า เรามาเริ่มกันเลยนะ  ทำทุกอย่างเหมือนกันตอนเริ่มต้น  คือ ยืนหันหลังให้ขอบสระ ยืดแขนออกไปข้างหน้า วางบนผิวน้ำ จากนั้น อ้าปากกว้าง หายใจลึกๆ หุบปากก้มหน้าลง แล้วก็ถีบขาออกไปจะขอบสระ หลังจากนั้นก็รวบขาให้ชิดกัน และก็ค่อยๆ ตีขาไปเรื่อยๆ จากนั้นก็ค่อยๆเป่าลมออก เป่าไปเรื่อย และอย่าหยุดตีขาจนกว่าจะอยากขึ้นมาหายใจ  จากนั้นก็กดขาลง เตรียมยืนได้เลย

ในการทำท่าปลาเข็มนั้น ต้องใช้ความกล้านิดหน่อย เพราะเราจะรู้สึกว่ามันลอย อยู่ไม่ค่อยนิ่ง อาจจะต้องให้เพื่อนช่วยพยุงตัวหน่อย จนเรารู้สึกคุ้นเคยก็ลองทำเอง พยายามทำตัวตามสบาย ใช้ความรู้สึกปลาดาวเข้ามาช่วย หลังจากนั้น ก็เตรียมตัวทำท่าต่อไปได้เลย


บทที่ 3 การเกาะโฟม ตีขา ก้มหน้าหายใจ

วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2554

ท่าลูกหมาตกน้ำ

ท่าลูกหมาตกน้ำก็นับเป็นอีกท่าหนึ่งที่ใช้เพื่อการลอยตัว และเลี้ยงตัวในน้ำ ท่านี้เป็นท่าที่นิยมในหมู่คนว่ายน้ำเป็นจำนวนมาก  แล้วอีกอย่างยังเป็นท่าที่สามารถเลี้ยงตัวได้นานที่สุดด้วย

รู้อย่างนี้แล้วก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า  เริ่มโดยการฝึกเตะขาในน้ำ ก่อนอื่นให้เรายืนในน้ำ ( หาสระที่ค่อนข้างลึก เอาแบบเวลายืนต้องเขย่งนะคะ เพราะตรงที่เรายืนถึงมันจะทำให้เราต้องงอขาตลอดเวลา ) ยืนแบบตะแครงข้างเอามือข้างที่ถนัดยึดเกาะขอบสระไว้ หลังจากนั้นลองเตะขา (แบบท่าฟรีสไตล์) แต่เป็นแบบแนวตั้งตรงดู อย่างอหลังยืดหลังตรงเอาไว้ พยายามเตะขาแรงๆเพื่อให้เราพยุงตัวอยู่ได้ในน้ำ หรืออีกวิธี โดยการกอดโฟมไว้ให้โฟมแนบกับลำตัวของเราจากนั้น ก็เตะขาแบบฟรีสไตล์ในน้ำที่ค่อนข้างลึกเช่นเดียวกัน เตะไปเรื่อยๆจนกว่าจะรู้สึกคุ้นเคย

จากนั้นลองใช้แขนที่ละข้าง ช่วยพยุงตัวในน้ำโดยการวักน้ำไม่ต้องยกมือขึ้นมาเหนื่อยน้ำ แต่ให้ทำในน้ำ โดยลักษณะงอแขนไว้ แล้วใช้ข้อมือวาดมือจากข้างหน้าไปข้างหลัง นึกถึงภาพลูกหมาเวลาตกน้ำแล้วมันว่ายน้ำ

ท่าแมงกระพรุน หรือลูกมะพร้าว

ท่าแมงกระพรุน ก็นับว่าเป็นท่าลอยตัว และเลี้ยงตัวได้อีกท่าหนึ่งคะ แต่ไม่ได้แนะนำให้ทำนานๆ เหมือนปลาดาวคะ เพราะมันลอยตัวได้ไม่นานคะ

เรามาเริ่มเลยดีกว่า ให้เราทำพร้อมกันทีเดียวเลยนะ โดยการขึ้นเข่าขึ้นพร้อมกันทั้ง 2ข้าง จากนั้น ใช้มือกอดเข่าทั้ง2ข้างเอาไว้ ก้มหน้าลงให้คางชิดอก หรือให้หน้าผากชิดเข่า หรือถ้าทำไม่ได้ก็เอาแค่เท่าที่ได้ก็พอ  เก็บคอ งอเข่า จากนั้นตัวเราก็จะลอยอยู่ในน้ำได้แล้วหละ หลังจากทำไปแล้วอย่าลืมเป่าลมออกบ้างนะ เดี๋ยวมันจะหนักเกินไป


ท่านี้เมื่อทำแล้วตัวเราอาจจะเอียงซ้าย เอียงขวาบ้าง หรืออาจจะลอยจนหลังพ้นน้ำ หรือบางทีตัวอาจจะลอยเป็นแนวตรงก็ได้ หรืออาจจะจมลงในน้ำนิดหน่อยก็เป็นได้คะ

การลอยตัวและเลี้ยงตัว ในท่าทางต่างๆ

การลอยตัว และเลี้ยงตัวในน้ำมีหลายแบบ เช่น ปลาดาวหงายหน้า  ปลาดาวคว่ำหน้า ลูกมะพร้าว( หรือบางคนเรียกว่าแมงกระพรุน ) ลูกหมาตกน้ำ  ในหน้านี้ปลาขอสอน ปลาดาวหวายหน้า และปลาดาวคว่ำหน้าก่อนละกันนะ

เริ่มจากปลาดาวหงายหน้า ( ถ้าไม่ถนัดก็เริ่มที่ปลาดาวคว่ำหน้าก่อนได้คะ  ไม่มีบทเรียนตายตัว ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับสิ่งที่ปลาเขียน ไม่มีลำดับก่อนหลังคะ ถนัดแบบไหน ก็เริ่มแบบนั้นก่อน )

แรกเริ่มนึกภาพปลาดาวออกไหมคะ   ถ้านึกไม่ออกก็มีรูปให้ดูคะ



จากนั้นเราก็เริ่มทำตามกัน โดนเริ่มต้นที่ กางมือออก 2 ข้าง จากนั้น ก็ค่อยๆเลยหัวไปข้างหลัง ตามด้วยเอนหลัง หลังจากนั้นก็ปล่อยขาข้างลอยน้ำ โดยเอาขาข้างที่ถนัดยืนพื้นไว้ก่อน แล้วปล่อยข้างที่ไม่ถนัดลอยน้ำขึ้นมา ขากนั้นก็ค่อยๆ ปล่อยขาขึ้นให้ลอยทั้ง 2 ขา กางขาออกทำท่าคล้ายปลาดาวคะ เลี้ยงตัวให้ลอยอยู่บนน้ำได้โดยการควบคุมลมหายใจ พยายามหายใจเข้าออกให้เป็นปกติ อย่ากลั้นลมหายใน แอ่นอกขึ้นเพื่อให้ตัวลอยอยู่บนน้ำได้ดี


ท่าปลาดาวคว่ำหน้าคะ

ลักษณะคล้ายกัน เพียงแต่เราคว่ำหน้าลงเท่านั้นเอง  วิธีการก็คือ กางแขนออก ไม่ต้องกว้างมากนะคะ ดูจากรูปปลาดาวนะ จากนั้น ก็กลั้นลมหายใจ ก้มหน้าลงในน้ำ ปล่อยขาขึ้นทีละข้าง จนขา 2 ข้างลอยระนาบเดียวกับน้ำ กางขาออกลักษณะคล้ายกับปลาดาว คล่อยๆ ผ่อนลมออกในน้ำถ้าหากรู้สึกอึดอัด หรือว่าตัวเองจมลงในน้ำ


เกร็ดความรู้ เวลาทำทุกครั้งให้ลองนับเลข 1 2 3 ไปเรื่อย ทำได้เท่าไหรก็จำเอาไว้ คราวหน้าก็ลองทำใหม่ แล้วดูสิว่าทำได้นานขึ้นหรือไม่  อาจจะให้เพื่อนช่วยพยุงตัวเราตอนเริ่มแรกที่ทำก่อน หลังจากที่เราลอยตัวได้แล้ว ค่อยปล่อยมือออกก็ได้นะ


วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

บทเรียนที่ 1 การลอยตัว

หลังจากเราคุ้นเคยกับน้ำในสระแล้ว การเป่าลมก็.... โอเคแล้ว คราวนี้เรามาเริ่มการลอยตัว ตีขากันดีกว่า ( ปรกติแล้ว ปลาจะไม่ได้สอนลอยตัวตั้งแต่ แต่จะไปสอนครั้งสุดท้ายของคอร์ส จะเอาไปรวมกับการลอยตัวและการทำลูกหมาตกน้ำ )

แต่อันนี้ปลาต้องสอนก่อนเพราะว่าเราเอาไว้เรียนเอง และเอาไว้ช่วยตัวเองถ้าเผื่อเราเลยไปเล่นที่น้ำลึก  เอาหละเรามาเริ่มกันเลยแล้วกัน  ก่อนอื่นนั่งที่ขอบสระ ยื่นขาออกมาเสมอผิวน้ำ จากนั้นงุ้มปลายเท้าลงให้เหมือนเท้ากับขายาวเหมือนไม้บรรทัด (ตามรูป) แต่ไม่ต้องถึงขนาดเกร็งจนเกินไป แค่งุ้มก็พอ



งุ้มปลายเท้าลงชี้ไปที่ด้านหน้า ขณะนั่งอยู่ขอบสระ

จากนั้นก็เริ่มเตะขาขึ้นลงสลับซ้ายขวา เตะขาไปเรื่อยนับ 1-20 จากนั้นก็หยุดแล้วก็เริ่มเตะใหม่ รวมทั้งฝึกหายใจเข้าทางปากและออกทางจมูก (ถือว่าเป็นการ Warm Up ไปในตัวได้ด้วย )

หลังจากนั้นก็ลงน้ำคะ เอามือเกาะขอบสระเอาไว้ ยืดขาออก (ถ้าขาลอยไม่ขึ้น อาจจะใช้มือข้างที่ถนัดจับขอบสระไว้ และอีกข้างดันผนังสระในน้ำเพื่อช่วยในการพยุงตัว จากนั้นเริ่มเตะขาได้เลย ขาเหยียดตรง ปลายเท้างุ้ม งอเข่าได้เล็กน้อย แต่ไม่ถึงขนาดพับขาท่อนล่างนะ เพราะมันจะทำให้เคลื่อนที่ได้ช้า

เมื่อเริ่มตีขาได้แล้วก็อยากจะให้ลองก้มหน้าและเป่าลมพร้อมกับตีขาไปด้วย เริ่มจากเอามือเกาะขอบสระไว้ ยืดแขนออกให้สุด จากนั้นค่อยๆเริ่มตีขา พร้อมกับก้มหน้าลงในน้ำและเป่าลมออก พอหมดลมก็ให้เงยหน้าขึ้นมาอ้าปาก งับอากาศ เข้าไปพร้อมกับก้มหน้าลงในน้ำและเป่าลมออก ทำซ้ำไปเรื่อยๆ



ปลายเท้าห้ามชี้ลงพื้นสระ  แต่ให้ชี้ไปทางด้านหลัง (ขณะตีขาอยู่ในสระ)

เกร็ดความรู้  ถ้าเราทำจนเราถนัดหรือชินแล้ว ก็ลองเปลี่ยนมาใช้โฟม โดยการเกาะโฟมตีขาไปเรื่อยๆ จากขอบสระด้านหนึ่ง ไปขอบสระอีกด้านหนึ่ง ถ้าเราเตะขาแล้ว มันเคลื่อนที่ไปข้างหน้า แปลว่าเราทำถูกต้องแล้วคะ  บางคนอาจจะเกาะขอบสระแล้วตีขาไม่ขึ้น อันนี้ไม่แปลกคะ แต่ให้ลองเปลี่ยนมาใช้โฟมเกาะแล้วค่อยๆตีขาไปเรื่อยๆแทน


โฟมสั้น  คือ  การเอาแขนทั้งแขนวางบนโฟม พร้อมกับตีขา
โฟมยาว คือ การจับที่ปลายโฟม พร้อมกับก้มหน้าหายใจ และตีขา

ถ้าไม่เข้าใจหรือไม่เห็นภาพ ไว้คราวหน้าจะพยายามเอาภาพมาลงให้ได้นะคะ

สร้างความคุ้นเคย ฉบับคนกลัวน้ำ คนเคยจมน้ำ เด็กกลัวน้ำจ้า

หน้านี้หนักหน่อย สำหรับคนกลัวน้ำแบบเข้าเส้น ขึ้นสมอง

เรามาเริ่มที่การไม่บังคับใจใคร เดินเลยไปลงสระเด็กได้เลยคะ เพราะสระเด็กน้ำตื้น ยืนถึง หายใจสบายอิอิ ลองเดินไปเรื่อยๆดู ลองนั่งที่ขอบสระ แกว่งขาไปเรื่อยๆ จนเราเริ่มชินกันน้ำ หลังจากนั้นมองไปที่สระใหญ่คะ เขยิบไปเดินที่สระใหญ่ดูบ้าง นั่งขอบสระ แกว่งขาเรื่อยๆ หลังจากนั้นค่อยๆหย่อนตัวลงไป ไม่ต้องกลัวจมน้ำนะ เพราะน้ำตื้นในสระผู้ใหญ่ยังไงเราก็ยืนถึงอยู่ดี หลังจากนั้นค่อยเดินคะ เดินไปเรื่อยๆเดินเลาะขอบสระไปคะ จับขอบสระแล้วก็เดินไปเรื่อยๆ เดินไปจนเราเริ่มคุ้นเคย อาจจะใช้เวลานานแต่ก็ไม่ต้องรีบหรอกคะ สระเค้าเปิดทั้งวันอยู่แล้วชิมิ เริ่มชินหรือยังคะ เริ่มแล้วใช่ไหม จากนั้นเราลองใส่แว่นตากดันน้ำนะ แล้วลองค่อยๆย่อตัวลง แค่ย่อตัวลงนะยังไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แค่ย่อตัวลงหรือไม่ก็ก้มหน้าลงมองในสระน้ำมองไปรอบๆค่อยย่อตัวลงไปทีละน้อยๆ จนตัวเราเริ่มอยู่ในน้ำได้ทั้งหมดแหละ 

สำหรับเด็กที่กลัวน้ำ อาจจะให้ลองเล่นสระเด็ก หาของเล่นไปด้วยของเล่นที่เด็กชอบ เอาไปทั้งแบบจมน้ำและแบบลอยน้ำได้นะ เพราะเด็กจะได้ทำความคุ้นเคยทั้งแบบอยู่ในน้ำและอยู่บนผิวน้ำ แรกอาจจะหลอกให้ลงน้ำยากหน่อย แต่พอได้ลงน้ำแล้วละก็ขึ้นก็ยากอย่างกับฉุดช้างเลยที่เดียวนะ

คราวนี้เราจะเอาเด็กมาลงสระให้ยังไงดีเนี่ย คำถามนี่แหละยากสำหรับคนทั่วไป แต่ไม่ยากสำหรับคนอย่างเราหรอกเนอะ เริ่มจากเอาตัวเราไปลงน้ำก่อนนะ ลงไปยืนในสระใหญ่จากนั้นลองอุ้มเค้ามาแล้วก็พาเดินไปรอบๆสระ อาจจะหาห่วงยางมาให้ใส่ไว้ก่อน หรือไม่ก็เอาแถบแขนที่พองลม สวมไว้ที่แขนแล้ว
ก็ลองให้เค้าเล่นอยู่ใกล้เราเค้าก็จะเริ่มลอยตัวได้แล้วหละ

เกร็ดความรู้ สำหรับการเลือกห่วงยางหรือแถบแขนพองลมสำหรับเด็ก ควรเลือกขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไป เพราะเด็กอาจจะลื่นหลุดออกจากห่างยางหรือแถบแขนพองลมได้ และก็ไม่ควรเลือกเล็กเกินไปจนเด็กไม่สามารถขยับตัว แขนหรือขาได้เช่นกัน

มันเป็นแค่ความเชื่อที่ว่าถ้าลองโยนใครลงน้ำแล้วจะว่ายน้ำเป็น ไม่จริงหรอกนะ เพราะมันจะทำให้คนคนนั้นจมน้ำและอาจจะขยาดจนไม่กล้าลงน้ำได้อีกเลยที่เดียวแหละ เพราะฉะนั้นค่อยๆพาลงไปจะดีกว่า อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าคนปรกติ แต่ก็ใจเย็นๆคะเดี๋ยวเราก็ทำได้ ต้องท่องไว้ว่า เราต้องทำได้สิ !!!

วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เรามาเริ่มทำความคุ้นเคยกับน้ำในสระกันได้แล้ว

หลังจากเราจัดการทุกอย่างบนบกเรียบร้อยแล้ว คราวนี้เรามาเริ่มทำความคุ้นเคยกับน้ำในสระบ้างดีกว่า

ขอแบ่งบุคคลเป็นสองประเภทนะ ประเภทแรกคือคนกลัวน้ำแทบขาดใจ (อ่านหน้าถัดไปคะ) กับคนที่ปรกติดี

เอาที่คนปรกติดีก่อนแล้วกัน เราก็เริ่มนั่งข้างสระ หย่อนขาลงไปในน้ำ แกว่งเล่นเล็กน้อย เพื่ออให้ร่างกายปรับสภาพกับน้ำในสระ หลังจากนั้นก็.... ลงไปยืนในสระได้เลย เดินเล่นในน้ำให้ร่างกายเราคุ้นเคยกับน้ำที่มีอุณหภูมิเย็นนิดหน่อย ลองเดินไปรอบๆสระ (แต่อย่าไปน้ำลึกนะ)  ลองค่อยๆเดินไปเรื่อยๆ สำรวจสระว่าเราสามารถยืน หรือเดินได้จนถึงแค่ไหน เพื่อเราจะได้ไม่ไปเกินน้ำลึก

หลังจากทำความคุ้นเคยบนผิวน้ำแล้ว ก็มาต่อในเรื่องของลมหายใจกันบ้าง จากหนังสือบางเล่ม บ้างก็บอกว่าให้หายใจเข้าทางปาก และหายใจออกทางปาก หรือ บ้างก็บอกว่าหายใจเข้าทางปาก ออกทางจมูก เอาอย่างนี้นะ อธิบายง่ายๆเข้าใจง่ายๆ ถ้าเราถนัดแบบไหนก็ทำไปแบบนั้น แต่มีขอสังเกตอยู่ที่ว่า ถ้าเราหายใจเข้าทางปาก แล้วหายใจออกทางปากนั้น เวลาเราเป่าลมออกมันจะเข้าไปที่จมูกเรานั้นเอง ซึ่งจะทำให้เราสำลักน้ำได้ ก็เลยขอเปลี่ยนเป็นหายใจเข้าทางปาก แล้วไปออกทางจมูกจะดีกว่า
อีกอย่างข้อดีของการหายใจออกทางจมูกก็คือ เราจะสามารถค่อยๆผ่อนลมหายใจเราได้ สามารถบังคับให้หายใจออกทีละน้อยๆได้นั้นเอง ซึ่งจะทำให้เราอยู่ในน้ำได้นานขึ้นด้วยนะ จากนั้นลองทำในน้ำดู ตอนแรกเราอาจจะไม่คุ้นเคยบ้างก็เป่าไม่ออก บ้างก็ออกทางปาก บ้างก็สำลักน้ำ อยากจะบอกว่าให้ใจเย็นๆ ลองเป่าพรวดเดียวแล้วขึ้นมาเลยก็ได้ ( ง่ายๆคือ ทำเหมือนเราสั่งน้ำมูก เวลาเราไม่สบายนั้นเอง ) ค่อยๆทำไปเรื่อยๆ จากครั้งเดียวก็เพิ่มเป็นสอง สาม สี่ หลังจากนั้นเราจะเริ่มคุ้นเคยแล้วหละ เดี๋ยวก็เป็น คราวนี้เราก็เป่าออกได้เรื่อยๆแล้ว อย่าลืมใส่แว่นตากันน้ำแล้วลืมตามองในน้ำด้วยนะ อย่าหลับตาหละ ทำซ้ำไปเรื่อยจนร่างกายเริ่มชินที่นี้ต่อไปเราก็ไม่ต้องสั่งให้ทำแล้ว เดี๋ยวร่างกายเราจะปรับได้เองอัตโนมัติเลย

อ่านมาถึงตรงแล้วอาจจะงง ว่าแล้วจะต้องลงไปอย่างไร หน้าต้องทำอย่างไร ต้องก้มไหม เงยหรือเปล่า
ที่จริงแล้ว แค่มือจับขอบสระไว้ ย่อขาลงในน้ำ ให้หลังตรงอย่าก้มหน้ามองที่พื้นสระนะ เพราะมันจะทำให้บางคนเป่าลมไม่ออก แค่ย่อตัวลงก็พอแล้ว เอาให้ตัวเราลงไปในน้ำทั้งหมดก็พอ ถ้าบางคนยังเป่าไม่ออก ก็ไม่เป็นไรเพราะครั้งแรกๆก็ไม่เคยมีทำได้เช่นกัน ( จากประสบการณ์ที่สอนมาทั้งหมด)

เกร็ดความรู้ ลองลงไปเป่าในน้ำเป่าเรื่อยๆ แล้วพยายามนับ 1-5  ให้ได้ แล้วค่อยขึ้นมาหายใจใหม่ ทำซ้ำไปเรื่อย แล้วก็นับให้นานขึ้น จาก 1-5 ก็กลายเป็น 1-6 จนถึง 1-10 แล้วเราจะสามารถอยู่ในน้ำได้นานขึ้นนั้นเอง

หลังจากทที่เราเริ่มคุ้นเคยกับการเป่าลมแล้ว คราวนี้ไม่ต้องคำนึงถึงการนับเลขแล้ว แต่อยากให้เป่าลมออกให้หมดปอดเลย เป่าจนเราต้องการลมหายใจใหม่นั้นเอง ค่อยเริ่มขึ้นมาหายใจแล้วก็ลงไปเป่าใหม่  อย่าฝืนตัวเองจนทำให้เรารู้สึกว่ายาก แต่อยากให้ใจเย็นๆค่อยทำ นักเรียนปลาบางคนนะ พอสอนเสร็จกลับบ้านไปเอากะละมังซักผ้า เอามารองน้ำจนเต็มแล้วก็ก้มหน้าเป่าลมก็มี

ที่พูดมาทั้งหมดเนี่ยสำหรับผู้ใหญ่นะ เพราะสำหรับเด็กแล้วไม่มีปัญหาเรื่องพวกนี้หรอกคะ เพราะเด็กเค้ามีความกล้า และการปรับตัวได้ดีเยี่ยมเชียวหละ สอนแค่แป็บเดียว ครั้งเดียวก็เป็นเลย เด็กแต่ละคนมีความชอบไม่เหมือนกัน เด็กก็เหมือนผู้ใหญ่นั้นแหละ บ้างก็กลัวน้ำ บ้างก็ชอบ ที่ชอบก็โล่งไปเพราะไม่ต้องหลอก แค่เห็นน้ำก็โดดลงไปไม่ต้องสั่งเลยทีเดียว

หน้าต่อไปสำหรับคนที่มีอาการกลัวน้ำเข้าเส้นเลือด หรือเด็กที่กลัวน้ำจับใจ เชิญอ่านค่ะ